 ข้าพเจ้าเป็นลูกคนกลาง ของครอบครัวคลังเงินตรา เดิมที่ข้าพเจ้าชื่อ ทิพย์สุรางค์ คงปิติ บิดาของข้าพเจ้าเป็นโหราจารย์ท่านศึกษาเกี่ยวกับฮวงจุ้ย และโหราศาสตร์ในด้านต่าง ๆ ต่อมาภายหลังท่านตรวจดูชื่อของข้าพเจ้า ปรากฎว่าเป็นชื่อที่มีอักษรกาลกิณี ท่านจึงได้เปลี่ยนชื่อและนามสกุลให้ข้าพเจ้าว่า "อัปสร คลังเงินตรา"
ในชั้นประถมศึกษาอยู่โรงเรียนการัญศึกษาแล้วมาต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนสตรีนนบุรี ชีวิตของข้าพเจ้าคิดว่ายังไงข้าพเจ้าต้องจบปริญญาตรีแน่นอน แต่พอมาถึงชั้น ม. 5 เทอม 1 ช่วงนั้นเริ่มเรียนไม่ทันเพื่อน อีกทั้งก็หนื่อยกับงานที่ต้องออกไปช่วยบิดาขายของ คิดต้องไปโรงเรียน กลับมา 5 โมงเย็นต้องรีบไปเก็บร้านกว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไป 2 ทุ่มครึ่ง บางทีก็ 3 ทุ่ม กลับมาก็มาทำการบ้านต่อ กว่าจะได้นอนก็ 4 ทุ่มครึ่ง ทำให้ไม่มีเวลาอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียน อาศัยแต่ความเข้าใจในห้องเรียนอย่างเดียว ทำให้เรียนไม่ทันเพื่อนอยู่ดี
ช่วงนั้นเหนื่อยทั้งงานที่ร้าน เหนื่อยทั้งการเรียน บวกกับที่เห็นพ่อทำงานหนัก เวลาทำงานเหงื่อของท่านจะไหลเต็มตัวไปหมด และที่ร้านก็ไม่มีคนช่วยงาน ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจขอพ่อกับแม่ออกจากการเรียนมาช่วยที่ร้าน ช่วยอยู่ได้ประมาณ 2 ปี ก็ออกมาทำงานข้างนอก เพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนขยันคงอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ แต่คิดไว้มันก็ไม่เหมือนฝัน ออกมาอยู่กับคุณยาย และออกหางานทำ แต่ก็มาโดนหลอกจากสำนักงานจัดหางานที่ไร้มนุษยธรรม ตรงนี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนบ้านนอกหรือนักศึกษาซื่อ ๆ อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน สมัยนี้มีแต่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ตอนนั้นถูกหลอกเงินไป 2,000 บาท น่าเจ็บใจจริง ๆ
จากนั้นก็หางานทำที่โรงงานแถวนั้นเป็นโรงงานพลาสติก ได้วันละ 70 บาท ช่วงนั้นค่าแรงขึ้นต่ำ 120 บาทต่อวัน แต่ข้าพเจ้าต้องทำเพราะไม่ได้มีเงินกินข้าว ตอนนั้นรู้รสชาติเลยค่ะว่า คนตกงานลำบากขนาดไหน ข้าพเจ้าตั้งใจไว้เลยค่ะว่า ถ้ามีเงินมากพอจะตั้งเป็นโรงทานให้คนที่เขาไม่มีกินมากินกัน ถึงจะรู้ว่าเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ แต่ทุกท่านรู้ไหมคะว่า ใครเขาจะให้ข้าวเรากิน ตอนนั่งคิดว่าความขยันจะทำให้เราประสบความสำเร็จแต่เงินก็ไม่มีสักบาท ทำงานได้เงินมาก็หมดไปวันต่อวัน แถมค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากินอีกเดือนละ 2,000 บาทจะเหลือเหรอคะ
ต่อสู้ชีวิตในโลกกว้างได้ระยะหนึ่ง ก็ตัดสินใจกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ มาอยู่กับพ่อแม่ ตอนนั้นพ่อเริ่มศึกษาเกี่ยวกับฮวงจุ้ยแล้ว ตอนแรกพ่อทดลองแก้ไขที่ร้านซึ่งเป็นร้านขายส่งขนม ท่านเริ่มเอาลูกแก้วมาติดให้คานบ้าง ติดประตู้บ้าง ซึ่งไม่รู้เลยว่าที่คุณพ่อเอาลูกแก้วมาติดนั้นเป็นการแก้ฮวงจุ้ย เพราะท่านไม่เคยบอก วันไหน ที่พ่อว่างก็จะดูดวงให้บรรดาเซลล์ที่มาติดต่อขายของจนเซลล์แต่ละคนติดต่อใจ และมาเป็นประจำ ตอนหลังที่ร้านขายดีมากเนื่องจากว่า พ่อได้นำตู้ปลามาตั้งที่บ้านที่เราอาศัย โดยตั้งตรงมุมมังกรเขียว พอมาอีกวันพ่อก็เอาตู้ปลามาตั้งอีกแต่ตั้งที่มุมร่ำรวย ปรากฎว่าวันนั้นขายดีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จนทุกคนในบ้านรู้สึกแปลกใจมาก ๆ จนทำให้รู้สึก เอ๊ะ!! วันก่อนขายของดีพอมาวันนี้ก็ยิ่งขายดีกว่าเดิมอีกรู้สึกเร็วทันใจดีจัง หรือเพราะ บุญเก่าเราดีอยู่แล้ว เพราะคุณแม่จะทำบุญด้วยการตักบาตรทุกเช้า จะสวดมนต์ทุกวัน วันหนึ่งเกือบชั่วโมง คงจะด้วยเหตุนี้ละมั้งที่มาส่งเสริมกัน ทำให้ยิ่งดีขึ้นและเร็วทันใจจนน่าใจหายจริง ๆ
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ดิฉันก็ยังไม่ค่อยเชื่อในศาสตร์นี้เท่าไรนัก และบอกตรง ๆ ว่า งง มาก จนดิฉัน ได้มีโอกาสติดตามคุณพ่อ (อ.คลังจินดา คลังเงินตรา) ไปแก้ไขฮวงจุ้ยเกือบทุกจังหวัดในประเทศไทย และ ต่างประเทศ ดิฉันได้ฟังคำบอกเล่า จากลูกศิษย์ของคุณพ่อว่า ตั้งแต่แก้ไขบ้าน และ ห้างร้านบริษัทฯ ธุรกิจการค้า ก็ดีขึ้น ปัญหาต่าง ๆ ที่เคยประสบก็คลาย หายไป เหมือนเป็นมนต์วิเศษ ดิฉันก็แนะนำ เพื่อน ๆ หลายคน เรื่องฮวงจุ้ย และ
แก้ไขโดยไม่ได้ทุบ หรือ รื้อใด ๆ เพียงแต่ ติดลูกแก้ว และ ยันต์มงคล ของคุณพ่อ หลาย ๆ ที่ดิฉันแนะนำไป ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจที่เดียว
  
อาจารย์ฮวงจุ้ย ศาสตร์ลัทธิเต๋า (หมวกดำ) มีประสบการณ์มากกว่า 20ปี สนใจเข้าดูเว็บไซค์ http://www.huangjuijing.com/ ครับ
ติดตามทาง ช่อง ดูดี เชลเนล และช่อง jipata TV ทีวีดาวเทียม โดย อ.อัปสร/อ.คลังจินดา... ทุกวันศุกร์ สด เวลา 2 ทุ่ม
หรือดูได้ทาง www.jipata.tv สด 24 ชม
ขอแสดงความนับถือ อัปสร คลังเงินตรา
|